กีฬาเทควันโดสำหรับเด็กและเยาวชน พื้นฐานชีวิตที่มากกว่าศิลปะการต่อสู้

Browse By

กีฬาเทควันโดสำหรับเด็กและเยาวชน ไม่ได้เป็นแค่กิจกรรมหลังเลิกเรียนที่ให้ลูกได้ออกกำลังกายเฉย ๆ แต่เป็น “โรงเรียนชีวิตอีกใบ” ที่สอนทั้งวินัย การเคารพผู้อื่น ความกล้าหาญ และการล้มแล้วลุกอย่างมีศักดิ์ศรี หลายครอบครัวเริ่มจากการพาลูกไปลองเรียนเล่น ๆ สุดสัปดาห์ สุดท้ายกลายเป็นเส้นทางที่พาเด็กตัวเล็ก ๆ สู่การเป็นนักกีฬาเยาวชน หรืออย่างน้อยก็กลายเป็นเด็กที่มั่นใจในตัวเองมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ในยุคที่โลกกีฬาเข้าถึงง่ายผ่านออนไลน์ เด็ก ๆ กับผู้ปกครองสามารถดูการแข่งขันเทควันโดระดับโลกย้อนหลัง ศึกษาท่าทางนักกีฬา วางเป้าหมายในใจได้ตั้งแต่ยังเด็ก บางบ้านก็ใช้แพลตฟอร์มด้านกีฬาเดียวดูได้หลายชนิดกีฬา ทั้งฟุตบอล บาสเกตบอล และศิลปะการต่อสู้ เพื่อเปิดโลกให้ลูก เช่น เวลาอยากเช็กข้อมูลกีฬาอื่น ๆ เพิ่ม ก็อาจเข้าใช้งานผ่านช่องทางอย่าง ทางเข้า UFABET ล่าสุด เพื่อดูตารางแข่งขันหรือข้อมูลประกอบ แต่หัวใจสำคัญยังคงอยู่ที่ “ใช้กีฬาเป็นครู” ไม่ใช่ใช้กีฬาเป็นภาระเพิ่มความเครียด

บทความนี้เราเลยจะชวนคุยแบบละเอียด ว่าทำไมเทควันโดถึงเหมาะกับเด็กและวัยรุ่น โครงสร้างการฝึกควรเป็นอย่างไร บทบาทของผู้ปกครองควรทำอะไรได้บ้าง รวมถึงการจัดสมดุลระหว่างการเรียน หนังสือ กับการซ้อมให้ไปด้วยกันได้อย่างสบายใจทั้งบ้าน

ทำไมกีฬาเทควันโดจึงเหมาะกับเด็กและเยาวชน

จุดแข็งของกีฬาเทควันโด สำหรับเด็กและเยาวชน มีหลายข้อที่ไปไกลกว่าเรื่อง “เตะสวย–เตะแรง”

ฝึกการเคลื่อนไหวและควบคุมร่างกาย

เด็กยุคนี้ส่วนหนึ่งใช้เวลาหนักกับหน้าจอ มือถือ แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ ทำให้ร่างกายได้ใช้การเคลื่อนไหวน้อยลง เทควันโดช่วยให้

  • เด็กได้ใช้กล้ามเนื้อทั้งตัว ทั้งขา ลำตัว แขน
  • ระบบประสานงานระหว่างตา–มือ–เท้าทำงานมากขึ้น
  • การทรงตัวดีขึ้น วิ่ง กระโดด หมุนตัวคล่องขึ้น

ผลพลอยได้คือ เด็กจะไม่รู้สึกเก้งก้างเวลาเข้าเรียนพละหรือทำกิจกรรมโรงเรียนอื่น ๆ

สร้างวินัยและความรับผิดชอบ

ในยิมเทควันโด เด็กจะต้อง

  • มาตรงเวลาซ้อม
  • ไหว้ครู ไหว้เพื่อน ไหว้รุ่นพี่
  • ฟังคำสั่ง และทำตามขั้นตอนที่ถูกต้อง
  • ดูแลชุดของตัวเอง พับเก็บให้เรียบร้อย

สิ่งเล็ก ๆ เหล่านี้สะสมไปเรื่อย ๆ กลายเป็นวินัยที่ติดตัวไปในชีวิตการเรียนและการใช้ชีวิตทั่วไป

เสริมความมั่นใจอย่างเป็นธรรมชาติ

เด็กหลายคนขี้อาย ไม่กล้าพูด ไม่กล้าเงยหน้าสบตาใคร พอเริ่มเล่นกีฬาเทควันโด

  • ได้ออกมาทำท่าหน้าห้อง
  • ได้รับคำชมเวลาเตะหรือทำท่าได้ดี
  • ได้เลื่อนสายทีละขั้นจากขาวไปสีอื่น

เขาจะเริ่มรู้สึกว่า “เราเก่งขึ้นจริง ๆ นะ” ความมั่นใจจึงไม่ได้มาจากคำชมลอย ๆ แต่มาจาก “หลักฐาน” ที่จับต้องได้จากการฝึก


พัฒนาการตามช่วงวัยในกีฬาเทควันโด

แต่ละช่วงอายุ เด็กจะมีรูปแบบการเรียนรู้ที่ไม่เหมือนกัน การออกแบบการฝึกสำหรับกีฬาเทควันโด สำหรับเด็กและเยาวชน จึงควรสอดคล้องกับพัฒนาการด้วย

วัยเด็กเล็ก (ประมาณ 4–6 ขวบ)

โฟกัสหลักของวัยนี้คือ “สนุกและปลอดภัย” ไม่ใช่การซ้อมหนักหรือจริงจังเกินไป

สิ่งที่มักฝึกคือ

  • การวิ่ง กระโดด ขยับตัว ขยับขา
  • ท่าเตะง่าย ๆ ระดับต่ำ
  • ท่ามือพื้นฐาน ท่ายืน มารยาทการไหว้
  • เกมเล็ก ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการตอบสนอง เช่น วิ่งไปแตะเป้าเมื่อได้ยินคำสั่ง

ถ้าเด็กกลับบ้านแล้วเล่าว่า “วันนี้สนุก อยากไปอีก” แสดงว่าเราเดินมาถูกทางมากกว่าการถามว่า “วันนี้เตะได้กี่ครั้ง”

วัยประถม (ประมาณ 7–12 ปี)

วัยนี้คือฐานสำคัญของกีฬาเทควันโด สำหรับเด็กและเยาวชน เพราะร่างกายเริ่มแข็งแรง สมาธิยาวขึ้น และเข้าใจกติกาได้ดีขึ้น

โฟกัสคือ

  • ฝึกท่าเตะพื้นฐานให้ถูกต้อง
  • เริ่มเรียนพุมเซชุดแรก ๆ
  • เรียนรู้การควบคุมแรง ไม่เตะจนเพื่อนเจ็บ
  • เริ่มสปาร์เบา ๆ ในกรอบกติกา

ถ้าเด็กเริ่มชอบและอยากลองลงแข่งเล็ก ๆ เช่น แข่งภายในยิม หรือรายการระดับโรงเรียน นี่คือช่วงเวลาที่ดีในการวางพื้นฐานสายแข่งขันอย่างค่อยเป็นค่อยไป

วัยมัธยมและเยาวชน (ประมาณ 13–18 ปี)

วัยนี้เริ่มมีความชัดเจนว่า “อยากเอาจริงแค่ไหน” กับกีฬาเทควันโด

  • บางคนอยากเล่นเพื่อฟิตหุ่นและคลายเครียดจากการเรียน
  • บางคนมองไกลถึงระดับเยาวชนทีมชาติ หรือใช้โควต้านักกีฬาเข้ามหาวิทยาลัย

โครงสร้างการซ้อมจึงมีความเข้มข้นมากขึ้น ทั้งในด้าน

  • ฟิตเนส (วิ่ง เวทเทรนนิง คาร์ดิโอ)
  • เทคนิคเกมสปาร์ การอ่านคู่ต่อสู้ การวางแผนในแต่ละยก
  • การควบคุมน้ำหนักให้เข้ากับรุ่นการแข่งขัน

วัยนี้คือช่วงที่การสนับสนุนจากผู้ปกครองสำคัญมาก ทั้งเรื่องเวลา การเดินทาง และการเข้าใจว่า “ลูกกำลังจริงจังแค่ไหน”


ตารางตัวอย่างแผนฝึก 12 เดือน สำหรับเด็กเริ่มต้นเทควันโด

เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น ลองดูตัวอย่างการไล่พัฒนาการของเด็กที่เพิ่งเริ่มเล่นกีฬาเทควันโด ตั้งแต่ปีแรก

ช่วงเวลาเป้าหมายหลักเนื้อหาการฝึกที่โดดเด่นผลลัพธ์ที่คาดหวัง
เดือนที่ 1–3รู้จักเทควันโดและพื้นฐานร่างกายวอร์มอัพ, ท่ายืน, การไหว้, เตะต่ำ, ท่ามือพื้นฐาน, เกมเคลื่อนไหวเด็กสนุก ไม่กลัวการล้ม รู้จักมารยาทในยิม
เดือนที่ 4–6เริ่มควบคุมท่าทางได้ดีขึ้นพุมเซชุดแรก, เตะสูงขึ้นทีละนิด, ฝึกสมดุล, สปาร์เบา ๆ แบบจับคู่เริ่มจำท่าได้ มีสมาธินานขึ้น กล้าแสดงออกมากขึ้น
เดือนที่ 7–9สร้างความต่อเนื่องและความฟิตเพิ่มความถี่การซ้อม, เตะต่อเนื่อง, ฝึกเข้า–ออกระยะ, ฝึกเล่นเป็นทีมร่างกายฟิตขึ้น ไม่เหนื่อยง่าย เข้าใจเพื่อนร่วมทีม
เดือนที่ 10–12ทดลองแข่งขันหรือประเมินเลื่อนสายเตรียมท่าเลื่อนสาย, ลองลงแข่งรายการเล็ก ๆ, ฝึกการรับมือความกดดันเด็กเริ่มเห็นเป้าหมายของตัวเองชัดขึ้น และมีความภูมิใจในความก้าวหน้า

แน่นอนว่าแผนนี้สามารถยืดหรือหดได้ตามจังหวะชีวิตและความพร้อมของเด็กแต่ละคน จุดสำคัญคือ “ความสม่ำเสมอ” และ “ความสุข” มากกว่าการเร่งให้เก่งเร็วเกินไป


บทบาทของผู้ปกครองในกีฬาเทควันโด สำหรับเด็กและเยาวชน

เทควันโดจะเป็นประสบการณ์ที่ดีหรือกดดันเกินไป ส่วนสำคัญมาจากบทบาทของผู้ปกครองด้วย

เลือกยิมและโค้ชที่ใช่

  • ดูบรรยากาศรวมของยิม เด็กยิ้มไหม หรือกลัว ๆ เกร็ง ๆ
  • โค้ชให้ความสำคัญกับวินัยและความปลอดภัยมากกว่าความโหด
  • ผู้ปกครองคนอื่น ๆ ในยิมมีท่าทีอย่างไรกับลูกของตัวเอง นี่มักสะท้อนวัฒนธรรมของยิมได้ดี

สนับสนุน ไม่กดดัน

เด็กจะรู้อยู่แล้วว่า “แพ้ก็เสียใจ” ถ้ากลับมาบ้านแล้วยังต้องเจอคำพูดทำนองว่า

  • “ทำไมไม่สู้ให้มากกว่านี้”
  • “คนอื่นยังทำได้เลย ทำไมเราไม่ได้”

เขาอาจเริ่มรู้สึกว่ากีฬาเทควันโดเป็นพื้นที่ที่ทำให้รู้สึกผิดมากกว่ารู้สึกภูมิใจ บทบาทของพ่อแม่ที่ดีคืออยู่ข้าง ๆ เวลาเขาชนะ และอยู่ข้าง ๆ แบบเดิมเวลาเขาแพ้

สื่อสารกับโค้ชอย่างสมดุล

ถ้ากังวลเรื่องการซ้อมหนักเกิน ความเสี่ยงบาดเจ็บ หรือเวลาเรียน ให้คุยกับโค้ชตรง ๆ ด้วยท่าทีร่วมมือ มากกว่าความรู้สึกกล่าวโทษ โค้ชส่วนใหญ่พร้อมปรับแผนให้เหมาะกับเด็กแต่ละคนอยู่แล้ว


เทควันโดกับการเปิดโลกกีฬาให้เด็กและวัยรุ่น

เมื่อเด็กเริ่มอินกับกีฬาเทควันโด เขาจะสนใจกีฬาอื่น ๆ ตามไปด้วยโดยธรรมชาติ เช่น

  • ดูการแข่งขันโอลิมปิกหรือชิงแชมป์โลก
  • ศึกษานักกีฬาในดวงใจ
  • ดูเทคนิคการเตะ การหมุน หรือพุมเซผ่านคลิปออนไลน์

หลายบ้านใช้โอกาสนี้เปิดโอกาสให้ลูก “ลองดูโลกกีฬาในวงกว้าง” อาจไม่ใช่แค่เทควันโด แต่รวมถึงฟุตบอล บาสเกตบอล หรือศิลปะการต่อสู้อื่น ๆ ซึ่งปัจจุบันก็สามารถตามโปรแกรมแข่งและผลกีฬาต่าง ๆ ผ่านแพลตฟอร์มด้านกีฬาได้ในที่เดียว บางคนสมัครใช้บริการเพื่อเช็กข้อมูลและดูสถิติผ่านทางหน้าเว็บอย่าง สมัคร UFABET แล้วใช้เป็นเครื่องมือให้ลูกเห็นภาพว่า “โลกกีฬาจริง ๆ ใหญ่กว่ายิมที่ไปซ้อมทุกสัปดาห์เยอะเลย”

อย่างไรก็ตาม จุดที่ต้องเน้นย้ำคือ ผู้ปกครองควรเป็นคนกำกับการใช้งานอินเทอร์เน็ตและแพลตฟอร์มต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับวัย ใช้ในมิติของการเรียนรู้และสร้างแรงบันดาลใจ มากกว่าปล่อยให้เด็กเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการลุ้นผลหรือเรื่องการเงินก่อนวัยอันควร


สายเรียน vs สายแข่ง ในกีฬาเทควันโด สำหรับเด็กและเยาวชน

ไม่ใช่ทุกคนที่เริ่มเล่นจากสายเรียนจะต้องจบที่สายแข่ง และไม่ใช่ทุกคนที่ไปสายแข่งจะต้องอยู่แบบเครียดตลอดเวลา

สายเรียน–สายสุขภาพ

  • ซ้อมสัปดาห์ละ 1–3 วัน
  • เน้นพื้นฐาน ท่าทาง พุมเซ และสปาร์เบา ๆ
  • ใช้เทควันโดเป็นพื้นที่ออกกำลังกายและระบายความเครียด

เด็กกลุ่มนี้จะได้ประโยชน์ทั้งด้านสุขภาพ วินัย และความมั่นใจ โดยไม่รู้สึกว่า “กีฬาคือภาระ”

สายแข่ง–สายจริงจัง

  • ซ้อมถี่ขึ้น อาจ 4–6 วันต่อสัปดาห์
  • มีโปรแกรมฟิตเนสเสริม วิ่ง เวทเทรนนิง คาร์ดิโอ
  • วางแผนลงแข่งเป็นรายการ ๆ มีเป้าหมายชัด เช่น เหรียญในระดับจังหวัด ระดับประเทศ

เด็กกลุ่มนี้จะได้เรียนรู้เรื่องการจัดการเวลา การรับมือความกดดัน และการทำงานเพื่อเป้าหมายระยะยาว การพูดคุยระหว่างลูกกับพ่อแม่สำคัญมาก ต้องตรงกันว่า “จริงจังแค่ไหน” เพื่อจะวางแผนชีวิตด้านอื่นให้เหมาะสม


จัดสมดุลระหว่างการเรียนกับกีฬาเทควันโด

หนึ่งในคำถามยอดฮิตคือ “กลัวลูกซ้อมหนักจนการเรียนตก”

จริง ๆ แล้วกีฬาเทควันโดสามารถช่วยให้เด็กจัดการเวลาได้ดีขึ้นด้วยซ้ำ ถ้าเราช่วยเขาออกแบบตารางชีวิตให้เหมาะสม เช่น

  • วางวันซ้อมให้ไม่ทับกับวันที่การบ้านเยอะหรือมีติว
  • กำหนดช่วงเวลาอ่านหนังสือสั้น ๆ ก่อนหรือหลังซ้อม
  • ใช้กีฬาเป็น “เวลาปิดหน้าจอ” ให้ร่างกายและสมองรีเซ็ตจากการนั่งเรียนทั้งวัน

หลายครั้งเมื่อเด็กมีโครงสร้างชีวิตที่ชัดเจน เขาจะรู้จักแบ่งเวลาได้ดีขึ้นกว่าการไม่มีอะไรเลย นอกจากการเล่นมือถือหรือดูคลิปยาว ๆ


เทควันโดกับการสร้างทักษะชีวิตให้เด็กและเยาวชน

กีฬาเทควันโด สำหรับเด็กและเยาวชน ยังช่วยฝัง “ทักษะชีวิต” ที่มองไม่เห็น แต่สำคัญมากในอนาคต

  • ทักษะการล้มแล้วลุก – เด็กจะชินกับการล้มในยิม แล้วลุกขึ้นมาสู้ใหม่ในยกต่อไป สิ่งนี้คล้ายกับการล้มเหลวเล็ก ๆ ในชีวิตจริง
  • การเคารพทั้งผู้ชนะและผู้แพ้ – ทุกแมตช์จบลงด้วยการไหว้กัน ไม่ว่าผลจะเป็นยังไง สอนให้เด็กเห็นว่าคู่แข่งก็เป็นคนที่ช่วยให้เราเก่งขึ้น
  • การทำงานเป็นทีม – แม้เทควันโดจะดูเป็นกีฬาคนเดียว แต่การซ้อมที่ดีต้องมีเพื่อนร่วมยิม ต้องเรียนรู้การสนับสนุนและให้กำลังใจกัน
  • การตั้งเป้าหมายระยะสั้น–ระยะยาว – เลื่อนสายทีละขั้น แข่งทีละรายการ ทำให้เด็กเข้าใจว่าความสำเร็จไม่ได้เกิดจากการกระโดดข้าม แต่เกิดจากการเดินทีละก้าว

มุมมองของวัยรุ่นที่เติบโตมากับเทควันโด

สำหรับวัยมัธยมปลาย–มหาวิทยาลัยที่เติบโตมากับกีฬาเทควันโด หลายคนมองย้อนกลับไปแล้วพูดคล้าย ๆ กันว่า

  • “ถ้าไม่มีเทควันโด ตอนมัธยมคงหลุดโฟกัสไปไกลกว่านี้”
  • “เพื่อนในยิมกลายเป็นเพื่อนสนิทที่คุยได้ทุกเรื่อง”
  • “เวลาเจอเรื่องยาก ๆ ในชีวิต นึกถึงตอนเคยแพ้แบบเจ็บ ๆ แล้วผ่านมาได้ ปัจจุบันเลยรู้สึกว่าอะไรหลายอย่างก็พอไหว”

บางคนต่อยอดความรักในกีฬาเทควันโดไปในมุมอื่น เช่น

  • เป็นโค้ชสอนเด็กเล็ก
  • เป็นเทรนเนอร์ฟิตเนสที่เข้าใจการเคลื่อนไหวเชิงกีฬา
  • สายวิเคราะห์กีฬา ดูแมตช์เทควันโดและกีฬาอื่น ๆ แบบจริงจัง

ยุคนี้ข้อมูลกีฬาอยู่บนออนไลน์แทบทั้งหมด วัยรุ่นบางคนก็ใช้แพลตฟอร์มด้านกีฬา เป็นจุดเชื่อมต่อกับโลกกีฬาในวงกว้าง เช่น ดูตารางแข่ง ผลคะแนน หรือข้อมูลทีมผ่านเว็บอย่าง ยูฟ่าเบท แล้วใช้ความเข้าใจในการอ่านเกม (ที่เริ่มต้นมาจากเทควันโด) ไปช่วยวิเคราะห์กีฬาประเภทอื่นเพิ่มเติมเสริมความสนุก แต่ก็ต้องไม่ลืมเรื่องความรับผิดชอบต่อเวลาและเงินของตัวเอง เพราะการลุ้นหรือการติดตามกีฬาไม่ควรกลายเป็นภาระในระยะยาว


FAQ – คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับกีฬาเทควันโด สำหรับเด็กและเยาวชน

เด็กอายุเท่าไหร่ถึงเริ่มเรียนเทควันโดได้

ส่วนใหญ่ประมาณ 4–6 ขวบขึ้นไปจะเหมาะที่สุด เพราะเริ่มฟังคำสั่งได้ มีสมาธิระดับหนึ่ง และควบคุมร่างกายได้ดีพอ แต่จริง ๆ แล้วขึ้นอยู่กับบุคลิกของเด็กด้วย บางคนพร้อมช้ากว่าหรือเร็วกว่าก็ได้


ถ้าลูกขี้อายมาก เทควันโดจะช่วยได้ไหม

ช่วยได้มาก เพราะการฝึกเทควันโดทำให้ลูกต้องยืนหน้าแถว ต้องทำท่าต่อหน้าคนอื่น และได้รับคำชมเป็นระยะ ๆ พอผ่านไป 3–6 เดือน เด็กส่วนใหญ่จะเริ่มยืนหลังตรงขึ้น มองคนอื่นมากขึ้น และกล้าพูดกับเพื่อน–ครูมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด


เล่นเทควันโดแล้วตัวเตี้ยจริงไหม

ไม่จริงในมุมของตัวกีฬาตรง ๆ การเติบโตของเด็กขึ้นอยู่กับโภชนาการและการพักผ่อนเป็นหลัก ถ้าเด็กกินอิ่ม นอนพอ และไม่ซ้อมโหดเกินวัย กีฬาเทควันโดกลับช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรง กระดูกรับแรงได้ดีขึ้นด้วยซ้ำ


กลัวลูกเจ็บตัวจากการสปาร์ ควรทำยังไง

เริ่มจากคุยกับโค้ชว่าอยากให้ลูกสปาร์แบบคุมแรงและแบบค่อยเป็นค่อยไป ดูให้แน่ใจว่ายิมมีอุปกรณ์ป้องกันครบ เช่น เสื้อเกราะ หมวก สนับแข้ง ฟันยาง พร้อมทั้งสอนลูกให้รู้ว่าการเตะหรือออกแรงเกินจนเพื่อนเจ็บไม่ใช่เรื่องเท่ แต่เป็นการขาดความรับผิดชอบ


ถ้าเด็กไม่อยากแข่ง ควรบังคับไหม

ไม่ควรบังคับ การลงแข่งควรเกิดจาก “ความอยากลองของเด็ก” เป็นหลัก ถ้าอยากให้ลูกลอง ควรเริ่มจากการชวนดูการแข่งขันเล็ก ๆ ก่อน พาไปดูเพื่อนแข่ง หรือชวนคุยว่า “ถ้าลงแข่งจะได้เรียนรู้อะไรบ้าง” ถ้าเด็กยังไม่พร้อม ก็ให้เทควันโดเป็นพื้นที่สุขภาพและความสนุกไปก่อน


ถ้าลูกอยากไปสายแข่งจริงจัง เรื่องเรียนจะเสียไหม

ขึ้นอยู่กับการจัดเวลาและแรงสนับสนุนจากครอบครัว เด็กที่ไปสายแข่งจำนวนไม่น้อยก็ยังเรียนดี เพราะเรียนรู้การวางตารางชีวิตและฝึกวินัยมาอย่างเข้มข้นจากกีฬา สิ่งสำคัญคือ ต้องคุยกันให้ชัดว่าช่วงไหนเน้นกีฬา ช่วงไหนเน้นสอบ และต้องมีเวลาพักให้ร่างกายกับสมองได้หายใจบ้าง


ถ้างบจำกัด จะเริ่มให้ลูกเรียนเทควันโดได้ไหม

ได้ ยิมหลายแห่งมีแพ็กเกจที่ยืดหยุ่น ทั้งแบบเรียนเป็นครั้ง ๆ หรือเป็นคอร์สรายเดือน สิ่งที่สำคัญกว่าการซื้ออุปกรณ์ราคาแพงตั้งแต่แรกคือ การลองให้ลูกเรียนสักระยะหนึ่งก่อน ถ้าเขาชอบจริง ค่อยลงทุนซื้อชุดและอุปกรณ์ตามความจำเป็นในลำดับถัดไป


เทควันโดเหมาะกับเด็กผู้หญิงไหม หรือเหมาะกับผู้ชายมากกว่า

เหมาะกับทั้งสองเพศ เทควันโดสอนให้เด็กรู้จักป้องกันตัว ใช้ร่างกายอย่างมั่นใจ และเคารพร่างกายตัวเอง เด็กผู้หญิงจำนวนมากทั้งในไทยและต่างประเทศประสบความสำเร็จในกีฬาเทควันโดอย่างสวยงาม สิ่งที่สำคัญกว่าคือ “เขาชอบหรือเปล่า” ไม่ใช่ “เขาเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย”


กีฬาเทควันโด สำหรับเด็กและเยาวชน คือของขวัญระยะยาวที่ให้ได้มากกว่าความเท่

เมื่อมองย้อนกลับจากทุกแง่มุม จะเห็นว่า กีฬาเทควันโด สำหรับเด็กและเยาวชน ไม่ได้ให้แค่ท่าเตะสวย ๆ หรือสายสีที่ผูกอยู่รอบเอวเท่านั้น แต่ยังให้ของขวัญที่มีคุณค่ากว่าในระยะยาว ทั้งวินัย ความรับผิดชอบ ความกล้าหาญ ทักษะการล้มแล้วลุกใหม่ และสังคมเพื่อนดี ๆ ที่เดินไปด้วยกัน

สำหรับผู้ปกครอง เทควันโดอาจเป็นหนึ่งในวิธีดูแลลูกให้ “แข็งแรงจากข้างใน” ส่วนสำหรับเด็กและวัยรุ่น เทควันโดอาจเป็นพื้นที่เล็ก ๆ ที่ทำให้เขาได้รู้จักตัวเองมากขึ้น รู้ว่าตัวเองสู้เพื่ออะไร รู้ว่าตัวเองทำอะไรได้ไกลกว่าที่คิด และรู้ว่าความพยายามทีละนิดสามารถเปลี่ยนชีวิตให้ต่างออกไปได้จริง ๆ

ไม่ว่าบ้านคุณจะเลือกให้ลูกไปสายเรียน สายสุขภาพ หรือสายแข่ง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการทำให้กีฬาเทควันโด สำหรับเด็กและเยาวชน เป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ความภูมิใจ และบทเรียนดี ๆ ที่จะติดตัวเขาไปอีกนานแสนนาน มากกว่าจะเป็นแค่กิจกรรมหนึ่งในตารางชีวิตที่ต้อง “ติ๊กถูก” ให้จบไปในแต่ละสัปดาห์ 💙🥋